จุดเริ่มต้นของทริปเกาะลันตาในครั้งนี้ มาจากที่เราอดตาหลับขับตานอนจนคว้าตั๋ว Big Sale จากโปรหางแดง กรุงเทพฯ – กระบี่ มาได้แบบขอบตาดำเลฟเวลสุด! แต่ก็ไม่ผิดหวัง เพราะราคาที่ได้มามันล่อตาล่อใจมั่กๆ 🙂 Step ต่อไป เราก็ต้องเลือกว่าจะไปเที่ยวและพักที่ไหนกันบ้าง แล้วหวยก็มาออกที่ “เกาะลันตา” ไข่มุกเม็ดงามแห่งท้องทะเลอันดามัน เพราะตอบโจทย์ที่เราตั้งไว้ คือ อยากไปเที่ยวเกาะสวยๆ ในฝั่งอันดามัน ที่เงียบสงบ ไม่พลุกพล่าน… ตามมาดูกันดีกว่า ว่าเกาะลันตาจะเป็นอย่างที่เราวาดฝันไว้หรือไม่

และแล้ววันเดินทาง เราก็เกือบไปขึ้นเครื่องที่ดอนเมืองไม่ทันเพราะรถติดมากกก ก.ไก่ล้านตัว!!!! จนโหลดกระเป๋าไม่ทัน ต้องทิ้งข้าวของเครื่องใช้ประทินโฉมไปแบบน้ำตาจิไหล แต่ก็ดีกว่าตกเครื่องแหละเนอะ (โดนแฟนบ่นหูชาเลอ) @#%$&#

ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมง 20 นาทีพอดิบพอดี ก็มาถึงสนามบินกระบี่ จากนั้น เราก็พุ่งไปที่เคาน์เตอร์รถเช่า Hertz Car Rental ที่ Terminal 1 ใกล้กับร้านเบอร์เกอร์ Subway เพื่อรับรถที่จองไว้ เป็น New Honda Jazz ปี 2016 สีบรอนซ์เงิน พร้อมประกันชั้น 1 โอ้โห! ใหม่กิ๊กไปอีกคร่าา

10.50 น. ล้อหมุน การเดินทางไปเกาะลันตาง่ายมาก ขีดเส้นใต้ค่ะ! เพราะมีป้ายบอกทางตลอด งานนี้บอกเลยว่าไม่ต้องกลัวหลงทางเลยนะคะ ^^ แล้วเราก็มาถึงท่าเรือบ้านหัวหิน-คลองหมาก (ท่าเรือเกาะลันตา) เกือบๆ เที่ยง ต้องซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่กระบี่-เกาะลันตาก่อนนะคะ ในอัตรา รถยนต์พร้อมคนขับ 100 ฿/ คัน และผู้โดยสาร 10 ฿/ คน เอาล่ะ! ไปต่อคิวรอลงเรือกันเลยย

เราไปถึงจังหวะดีทีเดียวค่ะ เพราะเรือเฟอร์รี่มาถึงพอดี ไม่ต้องรอคิวนาน เพียง 15 นาทีก็ข้ามมาถึงเกาะลันตาน้อยแล้ว รวดเร็วมากๆ เลยค่ะ

พอขึ้นเรือแล้ว เราก็ขับมุ่งหน้าไปเกาะลันตาใหญ่โดยข้ามสะพานสิริลันตา ซึ่งเป็นสะพานที่เชื่อมระหว่างเกาะลันตาน้อยและเกาะลันตาใหญ่ เพิ่งเปิดใช้เมื่อไม่นานนี้เองค่ะ ทำให้การเดินทางสะดวกขึ้นเยอะเลย

Finally! เรามาถึงเกาะลันตาใหญ่กันแล้วค่า เย้ๆ!! แวะไปกินข้าวเที่ยงกันก่อนนะคะ ที่ร้านแลวิว (Rareview Coffee & Restaurant) ร้านอาหารซีฟู้ดอร่อยๆ สดสะอาด ติดทะเลย่านโอลด์ทาวน์ (Lanta Old Town)

กินอิ่มกันแล้ว ก็ไปหาร้านนั่งจิบเครื่องดื่มเย็นๆ กันต่อที่ร้าน Malee Malee Handmade Stuffs

จากนั้น เราก็ไปไหว้ศาลเจ้ากรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (ศาลเสด็จเตี่ย) และศาลเจ้าสามต่องอ๋อง เพื่อความเป็นสิริมงคลและขอให้เราเดินทางโดยสวัสดิภาพตลอดทริปค่ะ

Go-Go-Go!!! Let’s go to Crown Lanta Resort & Spa (คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา)!! ที่พักเกาะลันตาที่เราจะมาชาร์จแบตกันตลอด 4 วันนี้ค่ะ

ที่จอดรถของคราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา

จอดรถแล้ว ก็เดินเข้าล็อบบี้ได้เลยค่ะ

มาค่ะๆ มาเช็คอินกัน

Welcome Drink >> น้ำกระเจี๊ยบ หอม หวาน เย็น สดชื่นนน

เราจะต้องนั่งรถโดยสารคันเล็กๆ ไปห้องพักกันนะคะ เพราะห้องพักของเราอยู่โซนบนภูเขา (Cliff Zone) ไกลจากล็อบบี้พอสมควรค่ะ

แล้วก็มาถึงห้องพักของเรากันแล้ว แถ่น..แทน..แท้นนน… Welcome to “Ocean Private Pool Villa” !

ห้อง Ocean Private Pool Villa ก็คือห้อง Ocean Sunset Villa เดิม เพิ่มเติมคือสระว่ายน้ำนั่นเอง

ห้องพัก Ocean Private Pool Villa ภายใน คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา มีทั้งหมด 12 ห้อง ทุกห้องมีจุดเด่นที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัว ตั้งอยู่บนเชิงเขา ติดทะเล และมองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้จากห้องพัก

เมื่อเปิดประตูเข้ามาในพูลวิลล่า เราก็ได้กลิ่นอโรม่าหอมๆ จากตะเกียงน้ำมันหอมระเหยทันที ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย to da max!!!

นอนชมวิวทะเลก็ฟิน แถมยังเดินลงสระได้จากปลายเตียง.. ฟีลกู๊ดมากๆ

ห้องพักพูลวิลล่าของที่นี่กว้างขวางโอ่อ่า หรูหรา มีการจัดวางพื้นที่ใช้สอยภายในห้องพักได้อย่างลงตัว เป็นสัดส่วน มีทั้งห้องรับแขก ห้องนอน Day Bed โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ห้องน้ำขนาดใหญ่ มีโซนเปียกและโซนแห้งแยกออกจากกันอย่างชัดเจน

Amenities ภายในห้องน้ำครบครัน

ไฮไลท์ของห้องนี้ก็คือสระว่ายน้ำมองเห็นวิวทะเล สวยเว่อร์วังมากๆ

มีเตียงนอนอาบแดดริมสระส่วนตัว สามารถชมวิวทะเล ดื่มด่ำธรรมชาติ สูดอากาศได้เต็มปอดไปเลยยย

มุมนี้เราขอยกให้เป็นมุมสุดชิล เหมาะกับการมานอนโง่ๆ พักกาย พักใจ ปลดปล่อยภาระการงานที่หนักอึ้งทิ้งไว้ ไปกับท้องฟ้าสีสด น้ำทะเลสีใส

มีฝักบัวแบบอาบน้ำฝน และ Sun Bed สำหรับนอนชมวิวทะเลริมสระว่ายน้ำ บรรยากาศโรแมนติกมว๊ากซ์ ฟินจนสุดจะบรรยาย

เพราะมุมนี้เป็นมุมโปรด เลยขอแถมให้ดูหลายรูปหน่อยนะคะ 😉

ข้างๆ สระว่ายน้ำ มีฝักบัวสายฝนให้ล้างตัวด้วยล่ะ

เรามาพักที่นี่หลายคืน เลยขอเปลี่ยนมุมชมวิวทะเลกันบ้าง ทางรีสอร์ทเลยจัดให้ เปลี่ยนให้เรามาพักอีกห้องติดกัน คือห้อง 2116 อยู่ข้างๆ ห้องที่เราพักนี่เอง เป็นห้องริมสุดได้บรรยากาศเป็นส่วนตัว วิวจะสวยขนาดไหนไปดูกัน

ภายในห้องก็จะคล้ายๆ กันกับห้อง 2117 แค่เป็นคนละมุมเท่านั้นเอง

มุมทีวี และมินิบาร์ ตู้เย็นจะอยู่ใต้ทีวี จัดเครื่องดื่ม ขนมทานเล่นไว้ให้พร้อม เรทราคาก็ตามมาตรฐานรีสอร์ททั่วไป ดึกๆ หิวก็หยิบมากินได้เลย สะดวกดีนะตัวเธอว์ 😀

มาดูมุมห้องนอนกันบ้าง ภายในห้องนอนเหมือนกันกับห้อง 2117

การตกแต่งภายในห้องพักใช้โทนสีเอิร์ธโทน ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบาย ชวนให้ผ่อนคลาย และแฝงไปด้วยความหรูหรา

ต่อมาก็มาดูในห้องน้ำกันบ้าง

จะแยกเป็น 2 โซนเหมือนกัน

มีมุมฝักบัวและมุมสุขาแยกกันเป็นสัดส่วน ให้ความรู้สึกโปร่งสบายไม่เหมือนใคร

ทีนี้จะพาไปดูสระว่ายน้ำและวิวด้านนอกกันบ้าง ดูสิว่าจะสวยเหมือนห้อง 2117 ไหม

โอ้โห!!!! สวยงามไม่แพ้กันเลยจ้า อยู่ที่ว่าใครจะชอบห้องไหนแล้วล่ะทีนี้ 🙂

สระว่ายน้ำส่วนตัวของเราสำหรับทริปนี้..ว่ายน้ำแบบชิลๆ ได้เลย หรือจะแช่น้ำทั้งวันก็ตามจาย ^_^

นอนกันยาวปาย Zzzz…

จากมุมนี้จะมองเห็นทางลงสระ ให้เราเดินลงแช่น้ำได้จากห้องนอนสบายๆ จะว่ายจะแช่ก็ได้หมดถ้าสดชื่น

มองจากสระมุมนี้จะเห็นห้อง 2117

ภาพ Silhouette ช่วงพระอาทิตย์ใกล้จะตกดิน มันก็จะฟินๆ หน่อยอ่ะนะ 😀

มาดูบรรยากาศภายในรีสอร์ทกันบ้าง 🙂  ตามมาๆๆ

สระว่ายน้ำโซน Cliff Zone จุดเด่นอยู่ตรงที่จะนอนอาบแดดหรือจะว่ายน้้ำก็สามารถชมวิวทะเลแบบไกลๆ ไปพร้อมกันได้เลย เริ่ดอ่ะ !!

สระว่ายน้ำโซน Ground Zone (Lap Pool) บริเวณห้องพักแบบ Pool Access ก็ได้ฟีลสงบ ร่มรื่น สวยคนละแบบ

ออกจากห้องมาก็โดดลงสระว่ายน้ำได้เลย ดี๊ดีย์!!

สวนจะอยู่ข้าง Lobby หน้าห้องพักโซน Pool Access

สะพานเชื่อมระหว่างโซน Pool Access กับ Lobby

มาดูห้องพักหรูสุดของ คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา นั่นก็คือ ห้อง Grand Villa ที่มีเพียงห้องเดียวในรีสอร์ทค่ะ ห้องนี้ตั้งอยู่ในจุดที่เรียกได้ว่าเป็นไฮไลท์ของ คราวน์ ลันตา เลยก็ว่าได้ เพราะมองเห็นวิวหน้าผาและทะเลรอบด้าน ห้องนี้เรทจะอยู่ที่ 36,000 บาทต่อคืน มี 2 ห้องนอน สามารถแช่อ่างจากุซซี่ไปชมวิวทะเลไปได้อย่างเป็นส่วนตัว มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนของครอบครัวหรือปาร์ตี้ของเหล่าเพื่อนสุดซี้

มุมห้องนั่งเล่น ไว้สำหรับมานั่งชิล มองวิวทะเลเพลินๆ 🙂

ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น พร้อมห้องครัว เหมาะสำหรับพาครอบครัวหรือแก๊งค์เพื่อนมาแฮงค์เอาท์กินลมชมวิวทะเลเบาๆ

ห้องนอนเล็ก พร้อมกับห้องน้ำในตัว

ห้องนี้ได้วิวทะเลเต็มๆ เพราะผนังห้องครึ่งหนึ่งเป็นกระจกใสบานใหญ่ มองเมื่อไหร่ก็สดชื่น

ห้องนอนใหญ่จะเป็นกระจกกว้าง สามารถมองเห็นวิวทะเลแบบ 180 องศา มีห้องนั่งเล่นในตัว มีห้องน้ำที่มีอ่างอาบน้ำจากุซซี่ให้นอนแช่ชิลๆ ดูวิวทะเลสวยๆ

เริ่มหิวแล้วล่ะค่ะ วันแรกนี้ เราแพลนจะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน ดินเนอร์กับมายเบทเทอร์ฮ้าฟฟฟ พร้อมจิบเครื่องดื่มเบาๆ ที่ คราวน์ เร็กเก้ บาร์ (Crown Reggae Bar) บาร์สุดฮิปริมชายหาด ที่เราขอยกให้เป็นบาร์ริมชายหาดที่บรรยากาศกินขาดทุกบาร์บนเกาะลันตาเลยทีเดียวค่ะ

ค่ำคืนนี้พิเศษจริงๆ ค่ะ เราได้นั่งโต๊ะบน Tree House สำหรับดินเนอร์คืนนี้ ซึ่งมีเพียงต้นเดียวใน Crown Reggae Bar ของที่นี่ นอกจากจะได้วิวสุดเอ็กซ์คลูซีฟแล้ว ยังเป็นส่วนตัวอีกด้วยนะคะ

โซนบุฟเฟต์ อยู่ติดกับบ้านต้นไม้ จะมีพนักงานคอยบริการตลอด

เย็นนี้โชคไม่ดีนิดหน่อยค่ะ เพราะมีเมฆมาบังดวงอาทิตย์ พระเอกของเราเกือบหมด แต่ก็สวยไปอีกแบบนะคะ (Positive Thinking ฝุดๆ )

ชอบแบบไหนถามใจเทอดู ^_^

น้ำมะพร้าวสด 100% (Coconut Juice) มาเป็นลูกเลยค่ะ หอม เย็น หวานนิดหน่อย อร่อยสดชื่น (ราคาลูกละ 100 ฿)

พิซซ่าหน้าแฮมและเปปเปอโรนี (Crown Reggae Pizza) แป้งบางกรอบ อร่อยจนต้องขอยกให้เป็นเมนูเรคคอมเมนด์ ถาดนี้ราคา 290 ฿

ปลาชุบแป้งทอดและมันฝรั่งทอดเสิร์ฟพร้อมทาทาร์ซอส (Fish & Chips) จานใหญ่มาก เนื้อปลาสด นุ่ม ราคาเพียง 250 ฿

ปีกและน่องไก่ทอด (Chicken Wings) เสิร์ฟมาในกระบอกไม้ไผ่ พร้อมผักสมุนไพรหอมๆ และน้ำจิ้มรสเผ็ดหวาน ขนาดพอดีทาน ราคาเพียง 195 ฿

เราชอบบรรยากาศที่ Crown Reggae Bar กันมากเลยค่ะ นอกจากจะได้ฟังเพลงแนวเร็กเก้สุดฮิปเคล้าเสียงคลื่นแล้ว ทุกคืนวันพุธ (คืนที่เราไป) ก็จะมีวงดนตรีสด (Live Band) มาร้องมาเล่นเพลงแนวเร็กเก้ให้ฟังชิลๆ อีกด้วยนะคะ โอ๊ย! ฟินสุดๆ !!

วันแรกผ่านไปไวเหลือเกิน… กู้ดมอร์นิ่งเช้าวันที่ 2 ที่ คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา เดี๋ยวจะพาไปทานเบรคฟาสต์ที่ The Peak Restaurant ห้องอาหารเช้าของที่นี่กันนะคะ

ห้องอาหาร The Peak Restaurant ตั้งอยู่ในจุดสูงที่สุดของ Crown Lanta Resort & Spa

เราเลือกนั่งโต๊ะที่อยู่ริมระเบียง เพื่อจะได้ทานมื้อเช้าไปชมวิวทะเลไป บอกเลยว่ามันดีต่อใจเหลือเกินค่า

มุมเครื่องดื่ม มีทั้งนมสด โอวัลติน น้ำผลไม้ ให้เลือกหลากหลายแล้วแต่ชอบเลยค่

มุมของคาว เอาใจทั้งชาวเอเชียและชาวตะวันตก มีตั้งแต่ ข้าวอบสับปะรด ผัดซีอิ๊ว เส้นหมี่ผัด ข้าวต้ม ซุป กับข้าวต่างๆ อาหารตะวันตก ไปจนถึงอาหารมังสวิรัติ

มุมสารพัดเมนูไข่และไส้กรอก แฮม เบคอน

มุมก๋วยเตี๋ยว

มุมสลัดและผลไม้สำหรับคนรักสุขภาพก็มาค่า

มุมของหวาน ละลานตามากค่ะ มีตั้งแต่เบเกอรี่ ข้าวเหนียวมะม่วง แพนเค้ก วาฟเฟิล ไปจนถึงคอร์นเฟลค

คุณแฟนอยากทานก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กหมูแดง เชฟปรุงให้สดๆ เลยนะคะ

ข้าวต้มหมูอร่อยมากๆ เลย กินไป 3 ถ้วย ^_^

ในส่วนของความหลากหลายของอาหารเช้านั้น ถูกใจมากค่ะ มีให้ลองชิมมากมายเลย ส่วนรสชาติก็อร่อยถูกปาก รู้เลยว่าใช้วัตถุดิบที่ดี งานนี้เอาใจพี่ไปเลย!

หลังจากที่เติมพลังจนอิ่มแปล้กันแล้ว ฟ้าครึ้มๆ อากาศกำลังดีไม่ร้อน เราเลยกลับไปนอนแช่ในสระว่ายน้ำส่วนตัวที่พูลวิลล่าของเรากันซักหน่อย นอนแช่น้ำชิลๆ กระโดดน้ำเล่นสักตู้ม สองตู้ม ชิทแชทตามประสาคนรู้ใจ พร้อมชมวิวทะเลสวยๆ หืมมมม ที่สุดแล้วค่ะ!

มื้อเที่ยงวันนี้ เราจะออกไปลองร้านอาหารทะเลเด็ดๆ ย่านศาลาด่านกันค่ะ ที่ ร้าน Black Pearl เกาะลันตา (Black Pearl Seafront Restaurant & Bar) เพียง 10 นาทีจากที่พัก ร้านนี้เค้าขึ้นชื่อเรื่องอาหารซีฟู้ดอร่อยสดใหม่ สมราคา ให้บริการทั้งอาหารไทย ซีฟู้ด และตะวันตก บรรยากาศดี ติดทะเลอีกด้วยนะคะ >> ดูรีวิวคลิก <<

และก็ถึงเวลาสปากันแล้วค่ะ เราจะได้สบายตัวกันแล้ว เลยพามานวดตัวที่ Infinity Spa ตามมาดูได้เลยค่า

พอเข้ามาก็จะมีที่นั่งรอ และมีพนักงานคอยบริการ

พนักงานพร้อมบริการด้วยรอยยิ้ม 🙂

อ่างที่อยู่ในสปา น่าแช่จังเลย

ห้องนวดก็จะเป็นแบบนี้ มีทั้งแบบเตียงเดี่ยว และเตียงคู่

สบายตัวมากๆ เลย ถ้าใครชอบหนัก เบา สามารถบอกพี่พนักงานได้ 🙂

พอนวดเสร็จ พนักงานจะเตรียมน้ำชาร้อนๆ ไว้ให้ดื่ม น้ำชาจะมีกลิ่นหอมมากๆ

ทางลงไป Reggae Bar มุมนี้ก็สามารถมองเห็นวิวทะเลได้สวยงามเช่นกัน

เย็นวันที่ 2 เรามาฝากท้องกันที่ Crown Reggae Bar อีกครั้ง เพราะติดใจในบรรยากาศสุดชิลล์ วิวสุดเลิศ เพลงฟังสบายๆ งานนี้ เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

น้ำมะนาวคั้นสด 100% (Lemon Juice) แก้วนี้ราคา 100 ฿

น้ำมะพร้าวปั่น (Coconut Fruit Shake) เสิร์ฟมาในลูกมะพร้าว เก๋ไก๋สไลเดอร์สุดๆ ราคาลูกละ 150 ฿

สปาเก็ตตี้ผัดขี้เมาทะเล เสิร์ฟมาในหม้อดินเผา รสชาติเผ็ดร้อน หอมเครื่องสมุนไพร ราคาเพียง 240 ฿

เส้นใหญ่ผัดซีอิ๊วหมู เสิร์ฟมาในหม้อดินเผา รสชาติกลางๆ อร่อยกลมกล่อม ราคา 240 ฿

ทานอิ่มกันแล้ว ฝนยังตกปรอยๆ เราเลยนั่งชิลล์ฟังเพลงกันต่อ สั่งคอกเทลมาจิบ นั่งมองทะเลฟังเสียงคลื่น แค่นี้ก็ฟินแล้วค่ะ
แก้วซ้าย Pina Colada : Rum, Malibu, Pineapple Juice, Coconut Cream ราคา 250 ฿
แก้วขวา Rock & Cliff : Gin, Cream de Banana, Mango Juice & Syrup ราคา 250 ฿

โชคดีมากๆ วันที่เราไปมีการแสดงโชว์ควงกระบองไฟด้วย ทำให้ยิ่งโรแมนติกเพิ่มไปอีกสเต็ป

เป็นภาพที่สวยงามมากๆ และคงหาดูยากด้วย

วันที่ 3 เราตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อไปเที่ยวประภาคารแหลมโตนดกัน 🙂

ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงของเกาะลันตา และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามอีกที่หนึ่งของประเทศไทย

พอกลับมาถึงที่พักก็จะมืดๆ หน่อย เราเลยตกลงกันว่าวันนี้จะทานมื้อเย็นที่โรงแรมกันนี่แหละ เพราะแต่ละคนก็หมดพลังไปเยอะ วันนี้เลยขอลองทานที่ห้องอาหาร The Peak Restaurant ที่เราทานมื้อเช้ากัน

น้ำแตงโมปั่น

น้ำมะนาว

น้ำมะพร้าวปั่น

แซลมอน สเต๊ก อร่อยมากๆ เลย มีความหอม บีบมะนาวใส่นิดนึง Wow…สุดยอด

ทูน่า สลัด มีความสด มันก็จะนุ่มๆ ลิ้นหน่อย 😛

พิซซ่า ซีฟู๊ด เมนูนี้บอกได้เลยว่าถ้ามาที่นี่ต้องสั่ง!! เพราะเป็นเมนู Signature ของรีสอร์ท แป้งบางมากๆ หอม อร่อย กุ้ง หอย มาเต็มๆ ฟินส์เว่อร์

สะเต๊ะไก่ พร้อมน้ำจิ้มสูตรอร่อย เนื้อไก่มันก็จะนุ่มๆ หน่อย

วันรุ่งขึ้น ก่อนจะเช็คเอาท์ เราแวะไปดื่มกาแฟที่ Crown Cafe : Lobby Lounge เปิดใหม่ มีทั้งคอฟฟี่ช็อป และ Internet Corner อยู่ใกล้กับล็อบบี้

ที่นั่งเยอะ แอร์เย็นฉ่ำ ^_^ นั่งชิวๆ เมาท์มอยไปยาวๆ จ้า

มาดูเครื่องดื่มกันว่ามีอไรบ้าง เมนูเยอะดีเลือกไม่ถูกเลย 🙂

จิบเครื่องดื่ม กินขนม & อาหารว่างยามบ่าย ที่ Crown Cafe

แตงโมปั่น และโกโก้ปั่น อร่อย เย็น สดชื่นมากๆ

คาปูชิโน่เย็น และน้ำส้มปั่น

ทุกวันเวลา 14.00-16.00 น. จะมี Afternoon tea เราชอบมากๆ ของกินเยอะดี คุ้มค่า คุ้มราคา กินวนไปๆ

มุมขนมไทย ชอบแบบไหนเลือกได้เลยจ้า

อันนี้เราชอบมากๆ ไม่หวานมาก หอม มีกลิ่นใบตองอ่อนๆ ด้วย โอ้ยย ฟินส์มาก

วันที่ 4 ฝนยังคงตกๆ หยุดๆ เราก็ต้องอำลา Crown Lanta Resort & Spa กันแล้ว.. หลังจากเช็คเอาท์เสร็จเราก็ขับรถลุยฝนมุ่งหน้ากลับไปฝั่งกระบี่กันเลยค่ะ

ก่อนบินกลับกรุงเทพฯ เราไปฝากท้องกันที่ร้านปากน้ำกระบี่ ซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลวิวสวย บรรยากาศดี ริมทะเลปากน้ำกระบี่ อาหารสด เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มสุดซี้ดแซ่บเว่อร์ อร่อยอะไรเบอร์นั้น ฟินกระจายค่าา

คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา In My Eyes
ช่วงที่เรามาพักที่ คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา แม้จะโชคไม่ดีนิดหน่อยตรงที่วันที่ 2 และ 3 มีมรสุมเข้า ทำให้เราอยู่แต่ในรีสอร์ทไม่ได้ออกไปเที่ยวข้างนอกเลย แต่ก็ไม่เบื่อเลยนะคะ เพราะในรีสอร์ทก็มีกิจกรรมให้ทำเยอะแยะมากมาย แถมพีคตรงวิวสวยๆ โดยรอบนี่แหละ ที่ทำให้เราติดใจจนไม่อยากออกไปไหนเองมากกว่า 555 โดยรวมแล้ว เราประทับใจทุกอย่างใน คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา ไม่ว่าจะเป็น ห้องพัก วิวที่ได้ ภูมิทัศน์ของรีสอร์ท การบริการ รสชาติอาหาร รวมถึงความน่ารักและเป็นมิตรของชาวเกาะลันตา การมาพักที่นี่ทำให้เราได้หนีจากความวุ่นวายของชีวิตในเมืองมาใช้ชีวิตให้ช้าลง ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ดื่มด่ำความงามของธรรมชาติตรงหน้าที่สวยราวกับสวรรค์ ทุกๆ อย่างใน คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา ลงตัว ดูดี จนทำให้เราไม่อยากกลับกันเลยล่ะค่ะ ใครได้มาเหมือนกับเรา ก็ต้องคิดถึงอยากกลับมาพักอีกหลายๆ ครั้งแน่นอน

จุดเด่น
– การเดินทาง : สะดวกมาก หากเช่ารถขับมาจากสนามบินใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชม.ครึ่งก็ถึงรีสอร์ท เนื่องจากสะพานสิริลันตาเปิดใช้แล้ว ทำให้ข้ามเรือเฟอรี่เพียงต่อเดียวเท่านั้น
– โลเคชั่น : รีสอร์ทตั้งอยู่บนหาดส่วนตัวและภูเขา มีความเงียบสงบและเป็นส่วนตัวสูงมากๆ ธรรมชาติร่มรื่น เหมาะกับคู่รักทุกคู่ นอกจากนี้ยังอยู่ไม่ไกลจากย่านศาลาด่านซึ่งมีร้านอาหารให้เลือกมากมาย
– ห้องพัก Ocean Private Pool Villa : วิวทะเลสวยมากๆ มองเห็นพระอาทิตย์ตกดินได้จากห้องพัก มีสระว่ายน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่สามารถกระโดดเล่นได้ทั้งวันทั้งคืน เตียงนอนนุ่ม หลับสบาย ห้องมีกลิ่นหอมอโรม่า มีสิ่งอำนวยความสะดวกและ Amenities ครบครัน
– สิ่งอำนวยความสะดวก : เพียบพร้อม ทั้งสระว่ายน้ำขนาดใหญ่วิวทะเล แบ่งโซนสำหรับเด็ก ฟิตเนส เรือคายัค ห้องอาหารถึง 3 แห่งและพูลบาร์ พร้อมบริการรถรับส่งจากรีสอร์ทไป-กลับจากศาลาด่าน
– อาหาร : อาหารเช้า มีหลากหลายทั้งอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น ฝรั่ง รสชาติอร่อย อาหารค่ำที่ Crown Reggae Bar รสชาติดีเยี่ยมทั้งอาหารและเครื่องดื่ม วิวหลักล้าน บรรยากาศดี ดนตรีเพราะ
– การบริการ : พนักงานทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส เต็มใจช่วยเหลือในทุกๆ เรื่อง ให้ 10 เต็มเลยค่ะ

จุดด้อย
– ห้องอาหารเช้าอยู่บนเนินเขา การเดินไปห้องอาหารอาจเหนื่อยหน่อย (เฉพาะแขกที่พัก Cliff Zone)
– สำหรับแขกที่พัก Cliff Zone การเดินทางภายในรีสอร์ทจำเป็นต้องใช้บริการรถรับส่ง เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเนินเขา ในช่วงเวลาเร่งด่วนบางทีก็ต้องรอนานเหมือนกัน
– ฟรี Wifi ทั่วบริเวณรีสอร์ท แต่สัญญาณอ่อนในบางจุด
– หาดส่วนตัวเล่นน้ำได้แต่มีหินค่อนข้างเยอะ แขกสามารถเดินไปหาดคลองดาวที่อยู่ไม่ไกลจากรีสอร์ทได้ค่ะ

ข้อมูล คราวน์ ลันตา รีสอร์ท แอนด์ สปา
ที่ตั้ง : 315 หมู่ 1 ต.ศาลาด่าน อ.เกาะลันตา จ.กระบี่ 81150
โทรศัพท์ : +66 (0) 7562 6999
มือถือ : +66 (0) 83596 7337
เว็บไซต์ : http://www.crownlanta.com/