พาเที่ยวแบบ ฮิป ฮิป ที่ สวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท สวนผึ้ง พักผ่อนในรีสอร์ทแสนสวยสไตล์เมดิเตอเรเนียนและคันทรียูโรเปี้ยนท่ามกลางวิวเขา ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพลิดเพลินกับกิจกรรมสุดฟิน สนุกสนานเหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง!

  • ป้ายทางเข้าทำด้วยอิฐ เพื่อให้ดูหนักแน่น มั่นคง และเข้ากับสไตล์ของรีสอร์ท เพิ่มความอบอุ่นได้ดี มีหินก้อนใหญ่วางตกแต่งด้านหน้าป้าย ทำให้ดูแข็งแรง
  • พอขับรถผ่านป้ายเข้ามาด้านในรีสอร์ท จะเจอทางเข้าที่มองแล้วสวยงามมาก เหมือนในฝันเลยครับ อารมณ์เหมือนดูละคร ที่พระเอกกลับมาจากเมืองนอก เพื่อมาดูแลไร่ต่อจากคุณพ่อคุณแม่ แฮ่ะๆ
  • มุมนี้มองไปจะเจอนาฬิกาเรือนใหญ่มาก ตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้าที่เอาไว้ให้ม้าและแกะวิ่งเล่น ด้านบนจะมีชื่อรีสอร์ท Swiss Valley จุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของรีสอร์ทแห่งนี้เลยครับ
  • ที่จอดรถของ สวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท เป็นที่จอดในร่มครับ สำหรับคนที่รักรถมากๆ (เหมือนกับผม) หายห่วงเรื่องต้องจอดรถตากแดดไปได้เลย หลังจากจอดรถเสร็จแล้ว จะมีพนักงานเอารถกอล์ฟมาช่วยขนกระเป๋า และพาไปส่งยังห้องพัก
  • ทางเข้า Lobby ตกแต่งได้น่ารักดีครับ แนววินเทจ ดูคลาสสิค ชอบมาก

ภายใน Lobby จะตกแต่งด้วยหิน ตัดด้วยไม้ และสีขาว ให้โทนอบอุ่นครับ พอเราเข้ามาเช็คอิน จะมีพนักงานมาคอยบริการ และนำ Welcome Drink มาต้อนรับให้สดชื่น ก่อนที่จะเข้าที่พักครับ

เจ้ารถมอไซค์ Vespa คันนี้ขี่ไม่ได้นะครับ เจ้าของเขาเอามาตกแต่งรีสอร์ทเฉยๆ 😀

นี่โรงจอดรถกอล์ฟที่จะพาเราทัวร์รอบๆ รีสอร์ทครับ ที่นี่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง และทางชันสลับกับเนินเล็กๆ ถ้าเดินเองก็เหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกัน

ห้องพักของเรา คือ S.6 และ S.7 นะครับ จะบอกว่าวันที่เราไปพักโชคดีมากๆ มีแขกเข้าพักแค่ 3 ห้องเอง เป็นส่วนตัวมากๆ ถ่ายรูปได้สบาย

ก่อนที่จะพาไปชมห้องพักของเรา ขอพาไปทัวร์ให้ทั่วรีสอร์ทก่อนนะครับ 😉

ทางเข้า Swiss Sheep Farm สถานที่ที่จะไปขี่ม้า ให้อาหารแกะ

มุมนี้ถือเป็นอีกมุมมหาชนของสวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท เลยก็ว่าได้ เพราะเป็นมุมที่ใครๆ มา ก็ต้องหยิบเอากล้องเล็ก กล้องใหญ่ขึ้นมาถ่ายภาพเก็บเอาไว้ ว่าไปแล้วก็ขอถ่ายกับเค้าบ้าง ฮี่ๆ

อยากจะเอาเจ้ารถคันนี้กลับบ้านด้วยจังเลย ให้ฟีลวินเทจมากๆ ส่วนบ้านหลังขาวๆ นั้นมีไว้ให้สำหรับคนที่มาถ่ายพรีเวดดิ้งครับ (ที่นี่เป็นสถานที่ยอดฮิตสำหรับคู่รักที่จะมาถ่ายพรีเวดดิ้ง เพราะบรรยากาศดี วิวสวย ยิ่งถ้าได้มาถ่ายช่วงหน้าหนาว บอกเลยว่า โรแมนติกมากกกซ์)

พาเด็กๆ มาวิ่งเล่นกันได้นะครับ แต่ระวังขี้แกะ ขี้ม้า ด้วยละกันฮะ ฮี่ๆ

สำหรับน้องๆ หนูๆ วัยรุ่น และผู้ใหญ่ Young at Heart ทั้งหลายที่มาพักที่นี่ สามารถเข้ามาให้อาหารแกะได้ฟรีนะครับ จะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลตลอด เด็กๆ น่าจะชอบ
Tip: เวลาให้อาหารแกะ ให้อาหารโดยเดินถอนหลังไปเรื่อยๆ นะครับ เพราะถ้ายืนอยู่กับที่ เจ้าแกะน้อยจะรุมเราทันที ระวังจะโดนเหยียบเท้าเอานะจ๊ะ

  • ขี่ม้าก็ฟรีนะครับ เจ้าม้าตัวนี้สวยงาม สง่า แข็งแรง มีชื่อว่า เพชรสวิส เวลานั่งแล้วรู้สึกยิ่งใหญ่ยังไงก็ไม่รู้นะครับ ต้องลองๆ แล้วดูว่าจะรู้สึกเหมือนผมไหม
  • วิวมุมกว้างถ่ายจาก Lobby อาจจะมองไม่ค่อยเห็นบ้านพักเท่าไหร่ เพราะโดนต้นไม้บัง
  • มุมนี้ถ่ายจากห้องพักของเรานะครับ จะมองเห็นบ้านพักข้างๆ ซึ่งแต่ละบ้านพักก็จะมีการตกแต่งแตกต่างกันไป และมีชื่อเรียกบ้านแต่ละหลังแตกต่างกันไปด้วย
  • มุมสระว่ายน้ำจะอยู่บริเวณตรงกลางของรีสอร์ท สามารถว่ายน้ำไป ดูวิวรีสอร์ท วิวภูเขาไปได้ด้วยครับ
  • มุมนี้มองจากด้านล่าง Lobby จะเห็นห้องอาหารที่อยู่เหนือกำแพงสีขาวๆ ขึ้นไป
  • ภาพเส้นทางและบ้านพักส่วนหนึ่งในรีสอร์ท บ้านทุกหลังจะมีพื้นที่ส่วนตัว

ผมเรียกมุมนี้ว่า รวมใจ 🙂 สวยดีครับ หัวใจสีขาวบริเวณมารวมกันตรงนี้ ถ่ายรูปมาสวยงามมากๆ และจุดนี้สามารถมองเห็นรีสอร์ทได้โดยรอบเลยครับ

มุมนี้จะมีป้าย Swiss Valley ใหญ่ๆ สีขาว ไว้ให้ถ่ายรูปด้วย และยังมีเครื่องบิน มีแกะ เด็กๆ น่าจะชอบมุมนี้ และถ้ามาช่วงหน้าหนาวหมอกจะลงบางๆ โอ้ว…สวยจริงๆ

เครื่องบินลำนี้ ดูใกล้ๆ ลำใหญ่นะครับ

ยิงธนูก็ฟรีนะครับ งานนี้วัดกันไปเลยว่าใครจะเจ๋งกว่ากัน สำหรับผมไม่ต้องถามว่าเจ๋งขนาดไหน ไปดูผลงานกัน!!

ดูจากท่ายิงธนูแล้ว รับรอง…….

5555 เต็มๆ ไม่เข้าเป้าสักดอกเลย สงสัยลมแรงแน่ๆ พัดลูกธนูจนเปลี่ยนทิศทาง 😛

ชื่อสะพานเขาโดนใจมาก จุดบอกรัก แนะนำเลยสำหรับใครที่กำลังจีบกันใหม่ๆ ที่นี่อาจจะเป็นสถานที่พิเศษและมีความหมายสำหรับคุณก็ได้ 🙂

สะพานนี้ตกแต่งได้เก๋ และสามารถมองเห็นวิวรีสอร์ทได้เกือบทั่วทั้งรีสอร์ท ด้านล่างจะเป็นทางน้ำไหล

มุมนี้ยังกับอยู่ประเทศเกาหลี เป็นมุมแห่งความรักที่ทางรีสอร์ทจะเตรียมแม่กุญแจ และลูกกุญแจไว้ให้ (ตรงนี้ก็ฟรีอีก) เมื่อเราคล้องเสร็จก็ทิ้งกุญแจลงแม่น้ำด้านหลังได้เลยนะครับ (เป็นที่ทางน้ำที่รีสอร์ททำขึ้นมาเอง ไม่ต้องห่วงว่าจะทำลายธรรมชาตินะครับ)

มีสนามเด็กเล่นด้วย เผื่อใครมีเด็กๆ มา สามารถพาน้องมาเล่นได้ครับ

ทางเข้าห้องฟิตเนสและซาวน่า เพื่อสุขภาพที่ดี 555

3 คนนี้กำลังกินองุ่น อิอิ สำหรับที่นี่อากาศสดชื่นมาก เหมาะแก่การมาพักผ่อนจริงๆ

  • กินองุ่นอิ่มแล้ว ถึงเวลาที่จะพาไปชมห้องพักกันแล้วครับ ไปดูกัน
  • รอบนี้เรามาพัก 2 ห้องนะครับ บ้านหลังแรกมีชื่อว่า Riesling บ้านพักสไตล์ อิงลิช คันทรี่ เสมือนว่าอยู่ในสวนกุหลาบ ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวล อบอุ่น และโรแมนติก เป็นส่วนตัวเหมือนอยู่บ้าน โดยแสดงเรื่องราวของสวนกุหลาบที่สดชื่น ด้วยผ้าม่าน ผ้าบุ ภาพประดับต่างๆ ในบ้าน
  • บ้านหลังนี้ผมว่าเหมาะกับเด็กๆ นะครับ เพราะค่อนข้างมีตุ๊กตาเยอะ ดูแล้วเด็กๆ น่าจะชอบ น่าจะทำให้เขามีความสุข
  • ภายนอกบ้านด้านบนจะมีดาดฟ้า เอาไว้นั้งชมวิว หรือดินเนอร์ก็ได้ครับ แต่ภาพบนซ้ายไม่ใช่นะครับ นั่นเป็นบ้านพักอีกหลังที่อยู่ข้างๆ กัน
  • สำหรับวิวตอนกลางคืนสวยงาม เงียบสงบ มีแต่กลิ่นไอดิน และกลิ่นดอกไม้ สดชื่นจริงๆ ครับ

เปิดประตูบ้านมาจะเจอปุ่มสวิชไฟอยู่ตรงมุมประตูเลย ด้านบนมีที่ห้อยของไว้ให้ด้วย

มาดูในบ้านกันว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง มุมนี้ทีวี 32 นิ้ว มีตู้เย็นอยู่ข้างล่าง จัดวางลงตัวดีครับ ที่เก็บกระเป๋าจะใช้เป็นม่านลายดอกกุหลาบ เก๋ไปอีกแบบ

กาแฟ โอวัลติน มุมนี้เลยครับ ครบเครื่องบริการตัวเองได้เลย 🙂

มุมห้องนั่งเล่นเรียบๆ โทนสบายตา ภายในห้องพักให้อารมณ์เหมือนว่าเราอยู่บ้านของเราจริงๆ มาแล้วแทบไม่อยากกลับ (ถ้ามีตังค์จะพักยาวๆ เลย)

ห้องน้ำจะมีอ่างอาบน้ำด้วยนะครับ ซึ่งแต่ละบ้านรูปแบบอ่างจะแตกต่างกันออกไป

อีกมุมในห้องน้ำ เป็นโซนล้างหน้า แปรงฟัน แยกกันได้สัดส่วน ไม่แออัด เพราะกว้างมากๆ ชอบตรงเน้

ใครมีทรัพย์สมบัติเยอะ ไม่ต้องกังวล ที่นี่เขาก็มีตู้เซฟไว้ให้เรียบร้อย

มาดูบ้านอีกหลังที่ผมเข้าพัก มีชื่อว่า Chardonnay จะตกแต่งต่างจากบ้านหลังแรก (S.6 Riesling) บ้านหลังนี้ก็บ้านพักสไตล์ อิงลิช คันทรี่ เช่นกัน เน้นความอบอุ่นเป็นหลัก ภายในบ้านกว้างมากๆ

  • มาดูภายนอกบ้านกันก่อนว่าจะสวยงามสู้บ้านหลังแรกได้ไหม ในภาพนี้ผมถ่ายทั้งด้านหน้าบ้าน ข้างบ้าน และด้านหลังบ้านที่สามารถเดินขึ้นไปบนดาดฟ้าได้
  • สังเกตว่าทั้งสองหลังผมจะเลือกบ้านที่มีดาดฟ้า อันนี้ชอบโดยส่วนตัวนะครับ รู้สึกว่ามันเก๋ดี

ประตูเข้าบ้านครับ ดูเท่ อลังการมาก เหมือนบ้านคนอังกฤษสมัยเก่า 🙂

  • เปิดมาจะเจอห้องนั่งเล่นนะครับ และจะเป็นโซนวางแก้วน้ำ ขนม ชา แกแฟ และตู้เย็น ที่นี่ฟรี WiFi นะครับ
  • ถัดมาจะเป็นโซนห้องนอน บ้านหลังนี้แยกเป็น 3 ส่วน ให้เลย มุมนี้จะเป็นห้องนอนและห้องแต่งตัว จะบอกว่ามันกว้างมากๆ เลยครับ ในห้องมีมุมให้นั่งเล่นหลายมุมมากๆ มีทีวีให้ 2 จุด
  • มุมนี้เป็นวิวที่มองจากที่นั่งเล่นในส่วนของห้องนอนครับ สามารถมองเห็นสวนหน้าบ้านพัก และวิวของรีสอร์ทได้ด้วย

ของตกแต่งในห้อง ก็น่ารักดีนะครับ ให้ความรู้สึกเหมือนเรานอนอยู่บ้านของเราเอง ผมชอบการตกแต่งห้องพักของที่นี่นะ ดูแต่ละห้องจะมีเอกลักษณ์ของตัวเอง ไม่ซ้ำใครดี

  • ในส่วนของห้องน้ำก็กว้างขวางครับ มีอ่างอาบน้ำ มีโซนล้างหน้า มีโซนห้องสุขา แยกกันเป็นสัดเป็นส่วนดี ถ้าเปิดม่านออก สามารถนอนแช่ในอ่าง มองวิวรีสอร์ทและภูเขาได้เลย

มีไดร์เป่าผมให้ครับ ไม่ต้องพกมาให้หนักกระเป๋าเดินทาง ภายในห้องน้ำก็ยังเก็บรายละเอียดได้ดี ใส่ใจในการตกแต่งพอสมควรครับ

มาดูภาพตอนกลางคืนของบ้าน Chardonnay ว่าจะสวยขนาดไหนกัน บนบ้านมีดาดฟ้าด้วยนะครับ จะขึ้นทางด้านหลังของบ้าน สามารถมองเห็นวิวรีสอร์ทได้หมดเหมือนกันครับ

วันที่ผมมาพักเป็นวันธรรมดาครับ มีแขกมาพักไม่กี่ห้อง ทางรีสอร์ทไม่ได้เปิดห้องอาหาร จึงให้สั่งเป็นเมนูๆ แล้วเลือกว่าจะเอามากินที่ห้อง หรือดาดฟ้าก็ได้ และที่เห็นบนโต๊ะนี่คือส่วนหนึ่งนะครับ จริงๆ มีมากกว่านี้ โต๊ะตั้งไม่พอ 555 อร่อยทุกเมนูครับ

  • ผมกินข้าวผัดไป 2 จาน ตามด้วยสปาเก็ตตี้อีก 1 จาน และปิดท้ายด้วยออมเล็ต แค่นี้ก็แน่นแล้วครับ 🙂

โดยรวมแล้วผมว่าที่พักที่นี่โอเคเลยนะครับ มีบ้านหลายแบบให้เลือกพัก อาหารอร่อย พนักงานบริการดีมาก มีกิจกรรมให้เล่นเยอะ ที่สำคัญไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มด้วย บรรยากาศของรีสอร์ทก็ดีมากครับ เดินทางสะดวก ไม่ไกลจากกรุงเทพ แต่แนะนำว่าถ้าไปพักเสาร์-อาทิตย์ คนน่าจะเยอะมากๆ ถ้าเป็นไปได้เลือกไปพักวันธรรมดาจะดีกว่าครับ

แผนที่ สวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท

ขอบคุณภาพแผนที่รีสอร์ทจาก http://www.swissvalleyhipresort.com

ข้อมูล สวิส วัลเลย์ ฮิพ รีสอร์ท
ที่ตั้ง: 7/7 หมู่ 7 สวนผึ้ง ราชบุรี 70180
เปิด-ปิดเวลา: 08.00-19.00 ทุกวัน
โทรศัพท์: 087-7733950 , 081-9956162
เเฟ๊กซ์ : 032-206128
ที่จอดรถ: ที่จอดรถของรีสอร์ท (จอดในร่ม)
อีเมล์ : swissvalleyhip@gmail.com
เว็บไซต์: http://www.swissvalleyhipresort.com