ทริปนี้ เรียกได้ว่าเป็นทริปฮันนีมูนของผมกับแฟนและเพื่อนซี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากเราแต่งงานไล่เลี่ยกัน เลยเกิดปิ๊งไอเดีย ชวนกันมาฮันนีมูนพร้อมกันซะเลย จะสนุกแค่ไหน ตามไปดูกันเลยครับ

ตอนแรก เรายังไม่ได้เลือกที่พักกันหรอกครับ ว่าจะพักที่ไหน รู้แต่ว่า เป็นทริปลงทะเลใต้ครั้งแรกของผมและเพื่อนแฟนผม จึงอยากให้ประทับใจที่สุด ก็เลยเลือก “ภูเก็ต” กัน เพราะทะเลสวยและการเดินทางสะดวกสบาย พวกเราเลยตัดสินใจเลือกที่พักภูเก็ตผ่าน Traveloka กันที่ลิงค์นี้ครับ https://www.traveloka.com/th-th/hotel/thailand/region/phuket-10000077 เพราะอ่านเจอรีวิวหลายอัน บอกว่าเป็นผู้ให้บริการเจ้าใหญ่จากอินโดนีเซียที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะในเรื่องของราคา ที่นอกจากจะมีราคาถูกแล้ว ยังมีโปรโมชั่น รหัสส่วนลดแจกกันตลอดอีกด้วย

ทีนี้ เราเลยเลือกจองที่พักภูเก็ตกันที่ โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต เป็นเวลา 3 วัน 2 คืน ด้วยเหตุผลที่ประทับใจในที่ตั้งของโรงแรมที่อยู่บนหาดส่วนตัว มีชายหาดที่สวยงาม ห้องพักเรียบหรู และจองผ่าน Traveloka ในวันจันทร์ ใช้ Pro Monday ได้ลดไปเยอะเลยครับ เลยจัดไปอย่าให้เสีย

ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง มุ่งหน้าสู่สนามบินนานาชาติภูเก็ต ด้วยเวลาเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาทีเท่านั้นเองครับ

เราเช่ารถของ Sixt Rent A Car มาตั้งแต่ในงานไทยเที่ยวไทยแล้วครับ ราคาดีทีเดียว แต่พอรับรถ ก็ผิดหวังกับสภาพรถนิดหน่อยครับ เยินมาเชียว

ก่อนเข้าที่พัก เราแวะกินอาหารภูเก็ตต้นตำรับที่ร้านระย้า ร้านอาหารชื่อดังของที่นี่ ถ้ามาภูเก็ต แล้วไม่ได้มาแวะชิม ถือว่ามาไม่ถึงนะครับ (ติดตามรีวิว ร้านระย้า คลิกที่นี่)

จากสนามบิน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึงโรงแรมเคปพันวาบนแหลมพันวาอันโด่งดังครับ

ถึงแล้วครับ โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต โรงแรมหรูระดับ 5 ดาวแห่งแรกของภูเก็ต ที่มีการรีโนเวทให้ใหม่และดูดีอยู่เสมอ เจอครั้งแรกยังไม่อยากเชื่อเลยครับว่าจะเปิดให้บริการมาถึง 28 ปีแล้วจริงๆ

บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต เป็นแบบโอเพ่นแอร์ ตกแต่งได้สวยงามทีเดียวครับ ให้บรรยากาศแห่งท้องทะเลอันสดชื่น สบาย และอบอุ่น

พอเช็คอินเสร็จ เราก็พุ่งไปที่ห้องพักเลย อยากเห็นแล้วว่าวิวจะเพอร์เฟคท์ขนาดไหน

ถึงแล้วครับ ห้องพักแบบเคปสวีท (Cape Suite) ห้องของเราอยู่บนชั้น 3 ตึกโซน F ซึ่งเป็นโซนที่ใกล้ชายหาดที่สุดและวิวสวยสุดแล้วล่ะครับ

ภายในห้องโอ่อ่า มีพื้นที่ใช้สอยขนาด 78 ตร.ม. แบ่งพื้นที่ของห้องเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นและห้องนอนได้อย่างลงตัว คงคอนเซ็ปต์ของห้องสวีทได้เป็นอย่างดี

ภายในห้องตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารี เน้นความเรียบหรู โทนสีสะอาดตา เฟอร์นิเจอร์ตกแต่งด้วยสีเอิร์ธโทนและใช้ไม้เป็นหลัก ให้ความรู้สึกอบอุ่น

มุมโซฟาพักผ่อน

มุมมินิบาร์ และ Welcome Fruit

เตียงใหญ่หนานุ่ม..มีหมอนให้กอดหนุนนอนเยอะไปหมด หลับสบายมากครับ

LCD TV อยู่กลางห้อง แต่หมุนปรับองศาได้นะครับ จะนั่งดูที่โซฟา หรือนอนดูบนเตียง ก็ไม่มีปัญหาครับ

ไฮไลท์ของห้องนี้ อ่างจากุซซี่ครับ แช่อ่างไป ชมวิวทะเลไป ฟินได้โล่เลยครับ แถมมองเห็นศรีพันวาด้วยนะครับ ง่อวววว

มุมห้องแต่งตัว

ห้องแต่งตัว มีทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เซฟ จัดสรรได้อย่างลงตัว ไม่อึดอัดครับ

ห้องน้ำกว้างขวาง สะอาดสะอ้าน เครื่องอำนวยความสะดวกมีครบทุกสิ่งที่ต้องการ มีการจัดแบ่งโซนเปียก โซนแห้ง สุขา และอ่างอาบน้ำอย่างชัดเจน มีอ่างล้างหน้า 2 อ่าง ดีเลยครับ จะได้ล้างหน้าแปรงฟันพร้อมกัน (ไม่ห่างจากแฟนเลยแม้แต่วินาทีเดียว อิอิ)

Amenities ของที่นี่ก็ครบครัน และยังหอมมากด้วยครับ

ห้อง Type นี้อ่างเยอะดีครับ มีทั้งอินดอร์และเอาท์ดอร์เลย

หลังจากเช็คอินเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้ว เราก็ไปไหว้หลวงพ่อแช่มที่วัดฉลองกันครับ (ติดตามรีวิว วัดฉลอง คลิกที่นี่)

เย็นวันแรก เราไปฝากท้องที่ร้านอาหารทะเลใกล้ๆ โรงแรมกันครับ ชื่อว่าร้าน เคียงเลซีฟู้ด (ติดตามรีวิว เคียงเลซีฟู้ด คลิกที่นี่)

ลานจอดรถ โรงแรมเคปพันวา

บริเวณล็อบบี้ตอนกลางคืน มีการให้แสงที่สวยมากๆ

กลับจากทานมื้อเย็นแล้ว เราก็มาดื่ม Welcome Drink กันต่อที่ Otter’s Bar ครับ เราเลือกนั่งโซนเอาท์ดอร์ เพื่อจะได้ชิลล์กับบรรยากาศยามค่ำคืนใต้แสงจันทร์ สวยมากๆ เลยครับ

ชมคลิป

อรุณสวัสดิ์เช้าวันที่ 2 ของทริป มีนกมาปลุกพวกเราถึงระเบียงห้องกันเลยครับ ^^

เราตื่นมาทานอาหารเช้ากันที่ห้องอาหาร Cafe Andaman ซึ่งจะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำครับ ไลน์อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะ แถมรสชาติก็อร่อยถูกปาก ฟินยกกำลังสามเลยครับ

ปาท่องโก่นุ่มๆ

นมข้นหวานเอาไว้จิ้มกับปาท่องโก๋

ข้าวต้มปลาเหยาะซอสแม็กกี้

ไข่ออมเล็ต

อาหารเช้าของพวกเรา เรียกว่าเป็นคลีนฟู้ดขนานแท้ (อร่อยจนทานเกลี้ยงจานกันเลยทีเดียว ^^)
ตบท้ายด้วยมะม่วงสุก หอม หวาน อร่อย

กองทัพเดินด้วยท้อง…หลังจากเติมพลังกันเรียบร้อยแล้ว เรามีโปรแกรมไปทัวร์เกาะเฮกับทางโรงแรมกันครับ (ติดตามรีวิว เกาะเฮ คลิกที่นี่)

ทางเดินไป Jetty หรือท่าเรือ

มีชิงช้าเอาไว้นั่งพักผ่อนสบายๆ ไกวไปมาอย่างเพลิดเพลิน

บรรยากาศโรงแรมเคปพันวาเมื่อมองจากนอกชายฝั่ง นับเป็นที่พักสุดคลาสสิคที่วิวสวยปัง ชวนให้หลงรักได้ง่ายๆ

กลับจากเกาะเฮแล้ว เราไปสำรวจที่พักสวรรค์บนดินแห่งนี้กันต่อดีกว่าครับ

อันดับแรก ผมจะพาไปเที่ยวบ้านพันวากันครับ

เราเลือกนั่งรถรางเพื่อลงไปชายหาด ให้บรรยากาศย้อนยุคดีครับ

บริเวณชายหาดของโรงแรมเคปพันวา บรรยากาศเป็นส่วนตัว เงียบสงบ เม็ดทรายขาวละเอียด เนียนนุ่มเท้าเมื่อสัมผัส ให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติกท่ามกลาง หาดทราย สายลม สองเรา อย่างแท้จริง

จากมุมนี้จะมองเห็นศรีพันวา รีสอร์ทสุดหรูอีกแห่งบนแหลมพันวา วิวดีงามพระรามแปดมากครับ

ถึงแล้วครับ บ้านพันวา (Panwa House) บ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส ซิกเนเจอร์ของโรงแรมเคปพันวาแห่งนี้ ที่นี่เป็นห้องอาหารติดชายหาดที่เปิดเฉพาะช่วงเย็น และให้บริการเฉพาะอาหารไทยครับ

เข้าไปตามรอยละครเรื่อง หนึ่งในทรวง ที่เจมส์จิและญาญ่านำแสดงกันครับ

ข้างๆ บ้านพันวา มีสระว่ายน้ำขนาดเล็กของโรงแรมที่อยู่ใกล้ชายหาด บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงาครับ

Bamboo Bar บาร์ริมชายหาด สามารถมาพักผ่อนหลบร้อนกันตรงนี้ได้ครับ

หลังจากเดินสำรวจโรงแรมจนทั่วแล้ว เริ่มรู้สึกเหนียวตัว อยากไปแช่สระว่ายน้ำบ้างแล้ว ก็เลยนัดกับเพื่อนๆ เจอกัน 5 โมงเย็นที่สระว่ายน้ำครับ

สระว่ายน้ำของที่นี่อยู่ท่ามกลางต้นไม้ ต้นมะพร้าว มองเห็นทะเลอยู่ลิบๆ

น้ำในสระว่ายน้ำเป็นสีฟ้าสดใส น่าลงเล่นมากครับ คงสดชื่นไม่ใช่น้อย

มุมพักผ่อนริมสระน้ำ เหมาะกับการมานั่งหรือนอนชิลล์สบายๆ ยามแดดร่มลมตกครับ

สระว่ายน้ำของที่นี่เป็นระบบคลอรีน สำหรับใครที่ผิวบอบบาง-แพ้ง่าย ระวังแพ้กันด้วยนะครับ

หากว่ายน้ำเหนื่อยๆ จะสั่งเครื่องดื่มมาจิบเพิ่มความสดชื่นริมสระก็ได้เช่นกัน

เย็นนี้เรามี Complimentary Dinner ที่ห้องอาหาร Cafe Andaman ซึ่งแถมมากับ Voucher ที่พักครับ

Cafe Andaman ยามค่ำคืน บรรยากาศโรแมนติกไม่เบาครับ

มีนักร้องคอยขับกล่อมเพลงสากลฟังสบายระหว่างดินเนอร์อีกด้วย

วันสุดท้ายแล้ว…เวลาหมุนเร็วเหลือเกิน ต้องกลับกรุงเทพฯ แล้วเหรอเนี่ย >.<~~

มาเก็บตกมุมสวยๆ ของโรงแรมเคปพันวากันครับ

มุมนั่งเล่นชมพระอาทิตย์ขึ้นและวิวทะเล

หลังจากเช็คเอาท์กันเรียบร้อยแล้ว เราก็ขับรถไปแวะทานมื้อเที่ยงกันที่ร้าน ครัวโชติรส ในตัวเมืองภูเก็ตก่อนกลับครับ (ติดตามรีวิว ครัวโชติรส คลิกที่นี่)

จากนั้น เราก็แวะซื้อของฝากที่ ร้านพรทิพย์ กันต่อ ทัวร์มาลงเยอะเลยครับ ส่วนมากเป็นชาวจีน ของฝากก็มีหลากหลายให้เลือกซื้อหากันครับ ราคาอาจจะสูงไปบ้าง แต่อร่อย ดูดีและมีคุณภาพครับ

ถึงสนามบินภูเก็ตแล้ว…พวกเราต้องโบกมือลาภูเก็ตเมืองน่ารักแห่งนี้กันแล้วล่ะครับ ทริปนี้ค่อนข้างสั้นไปหน่อย ทริปหน้าผมคงจัดไม่ต่ำกว่า 4 วัน 3 คืนแน่ๆ แล้วเราจะกลับมาเที่ยวภูเก็ตอีกแน่นอนครับ

เคปพันวา In My Eyes:

ประทับใจโรงแรมเคปพันวามากกกก กอไก่ล้านตัวเลยครับ อันดับแรกเป็น Landscape และภูมิทัศน์ของโรงแรม ตั้งอยู่ในทำเลที่ดีมาก ขนาบข้างด้วยภูเขาทั้ง 2 ข้าง ทำให้มีพื้นที่ชายหาดส่วนตัวที่ทอดยาว น้ำทะเลใส และมีความเป็นส่วนตัวสูง วิวโดยรอบของโรงแรมก็งดงามไม่แพ้กัน ห้องพักโอ่อ่ากว้างขวาง สามารถมองเห็นวิวทะเลได้จากห้องพัก ทั้งยังมีสถานที่ที่ถือเป็นไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือ บ้านพันวา ที่ใครได้มาแล้วต้องแวะไปเก็บภาพให้ได้ นอกจากนี้ ผมประทับใจในการบริการของพนักงานทุกคนที่น่ารักและคอยดูแลเอาใจใส่ ขอยกให้เป็นโรงแรมห้าดาวในดวงใจเลยครับ

ข้อดี

  • ชายหาดที่ทอดยาว น้ำทะเลใส น่าลงเล่น มีความเป็นส่วนตัวสูง
  • ห้องอาหารบ้านพันวา บ้านเก่าสไตล์ชิโนโปรตุกีส ยังคงได้รับการอนุรักษ์เป็นอย่างดี
  • มีสระว่ายน้ำให้ลงเล่นถึง 2 แห่ง พร้อมมีมุมนอนเล่นริมสระ บรรยากาศร่มรื่น ผ่อนคลาย
  • มีรถรางไว้คอยให้บริการแขกที่จะขึ้นลงจากห้องพักไปยังชายหาด
  • อาหารเช้ามีให้เลือกเยอะ รสชาติอร่อยทั้งอาหารเช้าและอาหารเย็น
  • ฟรี Wifi แรงมาก ใช้ได้ทั่วบริเวณโรงแรม
  • ทางโรงแรมมีทริปดำน้ำ ดูปะการัง ที่เกาะเฮ ครึ่งวัน ให้บริการ
  • การบริการโดยรวมดี ประทับใจมาก

ข้อเสีย

  • น้ำในสระว่ายน้ำเป็นระบบคลอรีน เพื่อนแฟนผมแพ้ กลับมาผื่นขึ้นเต็มตัวเลยครับ
  • ทางขึ้นโรงแรมค่อนข้างสูงชัน ต้องอาศัยคนขับที่ขับรถค่อนข้างเก่งหน่อยครับ

โรงแรมเคปพันวา ภูเก็ต ตั้งอยู่เลขที่ 27, 27/2 หมู่ 8 ถ.ศักดิเดช แหลมพันวา ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000